วัดชีพจรอสังหาฯ ไทย หลังวิกฤติโควิด-19
Economic Intelligence Center หรือ EIC ของธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 2563 ว่าจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีแนวโน้มหดตัวถึง 2.1% จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1. ผลของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่รุนแรงขึ้น
2. มาตรการควบคุมที่เข้มงวดของหลายประเทศ
3. ตัวเลขเร็วจากเศรษฐกิจหลักที่แสดงถึงการหดตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจที่มากกว่าคาด จึงทำให้คาดว่าเศรษฐกิจโลกจึงมีแนวโน้มปรับแย่มากกว่าที่เคยคาดไว้เดิม
ขณะที่เศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี จะหดตัวจนถึงขั้นติดลบที่ 5.6% ซึ่งมาจาก 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1. เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
2. จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมากกว่าคาด
3. ผลกระทบต่อการบริโภคจากการประกาศปิดเมือง
4. ผลจากมาตรการการเงินและการคลังล่าสุด รวมถึงมาตรการอัดฉีดเพิ่มเติมของภาครัฐผ่าน พ.ร.ก. กู้ฉุกเฉิน ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดจบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จีดีพีของไทย มีโอกาสหดตัวลดลงอยู่ที่ 3.2% แต่ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อมากกว่าที่คาดไว้ ก็อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและภาคส่งออกของไทยปรับลดลงมากกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน จึงมีแนวโน้มทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2563 หดตัวได้มากถึง 7.2%